ตำแหน่งที่อยู่ IP ของฉันคือที่ใด?

วิดีโอ: อธิบายเกี่ยวกับที่อยู่ IP และความเป็นส่วนตัว

วิธีเปลี่ยนที่อยู่ IP และซ่อนตำแหน่งของคุณ

เป็นเรื่องง่ายมากที่จะเปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณ และรักษาตำแหน่งและกิจกรรมออนไลน์ของคุณให้เป็นส่วนตัว สิ่งที่คุณต้องมีคือ VPN (เครือข่ายส่วนตัวเสมือน)

คุณสามารถใช้ VPN เพื่อเปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณและพาตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งอื่น VPN กำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณผ่านอุโมงค์ที่ปลอดภัยและเข้ารหัสเพื่อให้ไม่มีใคร แม้แต่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณก็ไม่สามารถเห็นสิ่งที่คุณกำลังทำทางออนไลน์ได้

การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN จะทำให้ดูเหมือนว่า คุณอยู่ที่เดียวกับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์นั้น ๆ ตัวอย่างเช่น หากคุณอาศัยอยู่ในสหรัฐอเมริกาและคุณเชื่อมต่อกับตำแหน่ง VPN ในสหราชอาณาจักร ก็จะดูเหมือนว่าคุณอาศัยอยู่ในสหราชอาณาจักร หากคุณอาศัยอยู่ในแคนาดาและคุณเชื่อมต่อกับตำแหน่งในออสเตรเลีย เว็บไซต์และแอปจะคิดว่าคุณอาศัยอยู่ในออสเตรเลีย

มีประโยชน์มากมายสำหรับ การใช้ VPN เพื่อซ่อน IP ของคุณ:

1. รักษาสถานที่จริงของคุณให้เป็นส่วนตัว

2. เข้ารหัสข้อมูลอินเทอร์เน็ตของคุณเพื่อให้คุณสามารถออนไลน์ได้โดยไม่เปิดเผยตัวตนและมีความปลอดภัยมากขึ้น

3. สลับไปมาระหว่างตำแหน่งที่ตั้งเสมือน ได้อย่างง่ายดาย เพื่อช่วยให้มั่นใจได้ถึงประสบการณ์อินเทอร์เน็ตที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ไม่มีการเซ็นเซอร์หรือข้อจำกัดด้านไฟร์วอลล์อื่น ๆ

ที่อยู่ IP คืออะไร?

ที่อยู่ของโปรโตคอลอินเทอร์เน็ต (ที่อยู่ IP) คือหมายเลขเฉพาะที่กำหนดให้กับอุปกรณ์ทั้งหมด (อาทิ คอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์) เมื่อเชื่อมกับต่ออินเทอร์เน็ต

ที่อยู่ IPv4 กับ IPv6

ปัจจุบันมีการใช้งานอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลสองเวอร์ชันซึ่งก็คือ IP เวอร์ชัน 4 (IPv4) และ IP เวอร์ชัน 6 (IPv6) โดยอินเทอร์เน็ตโปรโตคอลเหล่านี้มีสองฟังก์ชันหลัก ได้แก่ การระบุตัวตนและการระบุตำแหน่ง

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่าง IPv4 และ IPv6 คือจำนวนที่อยู่ที่เป็นไปได้ IPv4 รองรับได้เพียง 4 พันล้านเท่านั้น เพราะใช้เพียง 32 บิต ส่วน IPv6 เปิดตัวในปี 1995 เพื่อให้แน่ใจว่าโลกจะไม่หมดในเวลาอันใกล้นี้: IPv6 ใช้ 128 บิต ส่งผลให้เกิดถึง 3.4 x 10 ³⁸ ที่อยู่

การออนไลน์ทุกครั้งต้องมีที่อยู่ IP สาธารณะ

เพื่อใช้งานอินเทอร์เน็ต อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อทั้งหมดจะต้องมีที่อยู่ IP สาธารณะ โดยที่อยู่ IP ได้อนุญาตให้อุปกรณ์จำนวนสองเครื่อง—ผู้ส่งและผู้รับการสื่อสารทางอินเทอร์เน็ต—ให้สามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้

การตั้งค่าจะคล้ายคลึงกับระบบที่อยู่ในชีวิตจริง ยกตัวอย่างเช่น หากคุณสมัครสมาชิกนิตยสาร ผู้จัดจำหน่ายนิตยสาร (ผู้ส่ง) จะต้องมีที่อยู่ของคุณเพื่อจัดส่งหนังสือให้แก่คุณ (ผู้รับ) ทั้งนี้หากไม่มีที่อยู่ ผู้จัดจำหน่ายจะไม่สามารถทราบได้ว่าควรจัดส่งหนังสือที่ใด

เช่นเดียวกับอินเทอร์เน็ต หากไม่มีที่อยู่ IP อุปกรณ์ทั้งสองเครื่องจะไม่สามารถค้นหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันได้

ที่อยู่ IP ส่วนตัวและสาธารณะ

ต่างจากที่อยู่ IP สาธารณะ ที่อยู่ IP ส่วนตัวถูกใช้โดยเครือข่ายส่วนตัวเพื่อระบุและแบ่งปันข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ (เช่น เครื่องพิมพ์) ที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตโดยตรง

คอมพิวเตอร์แต่ละเครื่องหรืออุปกรณ์ในเครือข่ายภายในบ้านของคุณมีที่อยู่ IP ส่วนตัวที่ไม่ซ้ำกันเพื่อให้สามารถสื่อสารกันได้ อย่างไรก็ตามเครือข่ายท้องถิ่นภายนอกไม่สามารถดูหรือสร้างการเชื่อมต่อใด ๆ ได้

เราเตอร์ของคุณจะกำหนดที่อยู่ IP ส่วนตัวให้กับทุกสิ่งในเครือข่ายภายในบ้านของคุณผ่านโปรโตคอล DHCP โดยช่วงตัวเลขบางช่วงสามารถใช้งานได้เฉพาะกับที่อยู่ IP ส่วนตัว

ที่อยู่ IP ของคุณสามารถเปิดเผยอะไรเกี่ยวกับตัวคุณและที่ตั้งของคุณได้บ้าง

ที่อยู่ IP ของคุณสามารถเปิดเผยข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับตัวคุณและที่ตั้งของคุณได้ดังนี้

• เมือง
• ประเทศ
• จังหวัด
• รหัสไปรษณีย์

ทุกครั้งที่คุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ พวกเขาอาจรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคุณได้ ด้วยการรวมที่อยู่ IP ของคุณเข้ากับข้อมูลอื่น ๆ ที่รวบรวมจากเมทาดาทา คุกกี้ เครื่องมือติดตามและกลยุทธ์การพิมพ์ลายนิ้วมือบนเบราว์เซอร์ เจ้าของเว็บไซต์ นักการตลาด และผู้โฆษณาสามารถสร้างโปรไฟล์ที่ละเอียดเกี่ยวกับคุณได้

พวกเขาสามารถพบตำแหน่งของคุณได้ ว่ามีเว็บไซต์ใดบ้างที่คุณกำลังเยี่ยมชม สิ่งที่คุณสนใจ ผู้ที่คุณกำลังสื่อสาร ฯลฯ จากนั้นได้มีการนำเสนอเนื้อหาและโฆษณาที่ตรงเป้าหมายหรือ—ขายข้อมูลของคุณให้กับผู้ประมูลสูงสุด

ISP เป็นผู้ให้ข้อมูลเพิ่มเติม มีเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับคุณที่ ISP ของคุณไม่รู้จัก เนื่องจากคุณเป็นลูกค้า พวกเขาจึงรู้ชื่อ ที่อยู่ หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขบัตรเครดิต รายละเอียดบัญชีธนาคาร ประวัติเครดิต และ อาจมากกว่านี้ ISP ยังสามารถใช้ที่อยู่ IP ของคุณเพื่อบล็อกเปลี่ยนเส้นทางและเซ็นเซอร์กิจกรรมบนเว็บของคุณอีกด้วย

ในประเทศต่าง ๆ เช่น ออสเตรเลียและสหราชอาณาจักร ISP จำเป็นต้องดูแลบันทึกกิจกรรมการท่องเว็บของคุณและส่งมอบให้กับหน่วยงานของรัฐจำนวนนับไม่ถ้วนโดยไม่ต้องมีใบสำคัญแสดงสิทธิ หากคุณกำลังเรียกดูเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัยด้วย HTTPS ISP ของคุณจะเห็นหน้าเว็บที่ไม่ได้เข้ารหัสแต่ละหน้าที่คุณกำลังเยี่ยมชม

แม้ว่าคุณจะเรียกดูเว็บไซต์ที่มีการรักษาความปลอดภัยด้วย HTTPS ก็ตาม ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณก็ยังสามารถตรวจสอบโดเมนที่คุณเข้าชมได้ (แต่ไม่ใช่หน้าเว็บแต่ละหน้า)

รักษาความปลอดภัยการเชื่อมต่อส่วนตัวด้วย ExpressVPN

ExpressVPN ดำเนินการเซิร์ฟเวอร์ใน 105 ประเทศเพื่อมอบประสบการณ์อินเทอร์เน็ตฟรีและเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง

เมื่อคุณใช้ VPN ของเราจะสร้าง "อุโมงค์" ที่ปลอดภัยและเข้ารหัสระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ตและให้ที่อยู่ IP ใหม่ที่คุณแบ่งปันกับผู้ใช้อื่น ๆ นับพันซึ่งทำให้ใคร ๆ ก็ไม่สามารถติดตามกิจกรรมทางอินเทอร์เน็ตของคุณผ่านทาง IP ของคุณ

ขอบคุณ นโยบายที่เข้มงวดเพื่อไม่ให้มีการบันทึกกิจกรรมและการบันทึกการเชื่อมต่อ กิจกรรมออนไลน์ของคุณไม่ระบุตัวตนและเป็นส่วนตัว และการเข้ารหัส 256 บิตที่ดีที่สุดในระดับเดียวกันหมายความว่าข้อมูลของคุณปลอดภัยเท่าที่จะเป็นไปได้

หากคุณต้องการควบคุมประสบการณ์ออนไลน์ของคุณ—ไม่ว่าจะท่องเว็บอย่างปลอดภัยและไม่เปิดเผยตัวตนมากขึ้น หรือเพลิดเพลินกับโลกของเนื้อหาจากทุกที่บนอุปกรณ์ใดก็ได้ด้วยความเร็วที่รวดเร็ว—ปกป้องตำแหน่ง ตัวตน และกิจกรรมออนไลน์ของคุณตอนนี้ด้วย ExpressVPN